ความยั่งยืนกับการปรับตัวของธุรกิจครอบครัว

ความยั่งยืนกับการปรับตัวของธุรกิจครอบครัว

โดย ห้องเรียนผู้ประกอบการ

16 ตุลาคม 2566
611 Views

Highlight


  • ธุรกิจครอบครัวต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเทคโนโลยี ซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงให้ธุรกิจครอบครัว สามารถอยู่รอดและเติบโตต่อไปได้ในทุกสถานการณ์

จากบทความตอนที่ 3 การบริหารจัดการความมั่งคั่งของธุรกิจครอบครัว ซึ่งเป็นเรื่องหนึ่งที่มักก่อให้เกิดปัญหาในอนาคตของธุรกิจครอบครัว หากไม่ได้เตรียมการไว้อย่างดีตั้งแต่ต้น


ในส่วนสุดท้ายเป็นส่วนที่รวมเนื้อหาใน Theme “ESG Integration for Family Business” ประกอบด้วยการบรรยายหัวข้อ ”Sustainable Growth for Family Business: How to? โดย คุณอนันตชัย ยูรประถม ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน มีเนื้อหาโดยสรุปว่า


โลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้คุณค่าและค่านิยมบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปด้วย กำไรสูงสุดเพียงอย่างเดียว หากไม่ได้สร้างความยั่งยืนและไม่คำนึงถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง อาจไม่ได้รับการยอมรับ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้น กระทบต่อการทำธุรกิจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรฐานสากลกับวัฒนธรรม การทำแคมเปญที่อาจส่งผลกระทบต่อสิทธิมนุษยชน สิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อการกำหนดแนวทางการดำเนินธุรกิจทั้งสิ้น


สำหรับธุรกิจครอบครัว การมีธรรมนูญครอบครัว ค่านิยมของครอบครัวเปรียบได้กับธรรมาภิบาลของครอบครัว (Governance) ซี่งสามารถนำมาเป็นแนวทาง (Guideline) ในการดำเนินธุรกิจได้ ปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญกับสังคมและสิ่งแวดล้อม ธุรกิจครอบครัวจึงควรมีการปรับการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย  เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสและลดความเสี่ยง  ผู้กำหนดนโยบายจะต้องมองให้ออกว่าสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความเสี่ยงหรือโอกาส  บางอย่างเป็นสัญญาณอ่อนๆ ที่เริ่มมาแล้ว ต้องจับตามอง ค้นคิดพัฒนาเพื่อรอจังหวะจนสถานการณ์ดังกล่าวนั้นกลายเป็น “กระแส” และเป็น “Trend” ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคในระยะยาว หากธุรกิจครอบครัวซึ่งเป็น Supply chain ไม่ปรับเปลี่ยนให้สอดรับกับ Trend ดังกล่าวจะกลายเป็นความเสี่ยงในการทำธุรกิจ หากบริหารจัดการได้ดีปรับตัวทัน จะเป็นโอกาสในการเติบโตได้ต่อไป


สำหรับธุรกิจครอบครัวในประเทศไทยนั้น ได้มีการแชร์มุมมองของผลกระทบของ ESG ต่อธุรกิจครอบครัว ผ่านการเสวนาหัวข้อ “Thai Family Business Impact of ESG”  โดยมีผู้ร่วมเสวนาคือ

  • คุณนภัสร กิตะพาณิชย์       กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี
  • คุณสินีนุช โกกนุทาภรณ์     กรรมการผู้จัดการ บมจ. ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์
  • คุณอนันตชัย ยูรประถม      ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน

การเสวนาในหัวข้อดังกล่าว สรุปได้ว่า ในธุรกิจครอบครัวหรือธุรกิจที่ยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ สามารถเริ่มทำได้โดยตัวอย่างจาก บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) SAT นั้น มีค่านิยมของครอบครัว “คุณธรรมและความกตัญญู นำไปสู่ความรับผิดชอบต่อสังคม” ร่วมกับแนวทาง “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” จนนำไปสู่ 3 สมบูรณ์ สร้างสมดุล”  คือ “ฅน สมบูรณ์ ชุมชน สมบูรณ์ ธุรกิจ สมบูรณ์” โดยเริ่มต้นแนวทาง ESG (Environment, Social and Governance) ในด้านสังคมก่อน ช่วงแรก SAT ทำเป็นโครงการทำประโยชน์เพื่อสังคม (Corporate Social Responsibilty) CSR ต่อมาจึงพัฒนาโครงการ CSR อย่างต่อเนื่องและทำให้ยั่งยืนด้วยการทำเป็นระบบและนำไปเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์องค์กร สำหรับ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) TEGH นั้น เริ่มจากสิ่งสำคัญใกล้ตัวก่อนและเตรียมการในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเน้นที่การพัฒนาระบบภายในองค์กรก่อน และมองไปถึง Supply Chain ว่าต้องการความช่วยเหลือในด้านใด เป็นการเปลี่ยนแนวคิดเดิมจากการมองตัวเองเป็นผู้ผลิตที่ดีที่สุด สู่การเป็นการพาร์ทเนอร์เป็นพันธมิตรที่สร้างความยั่งยืนให้แก่ลูกค้า


การสัมมนาครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือส่งเสริมศักยภาพธุรกิจครอบครัวไทย โดยมุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของธุรกิจครอบครัว และร่วมกันขับเคลื่อนระบบนิเวศเพื่อการพัฒนาธุรกิจครอบครัวไปด้วยกัน เพื่อให้ธุรกิจครอบครัวไทยเข้มแข็งสู่การเป็นกำลังหลักของเศรษฐกิจต่อไป

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง