โดย ดร.ธนรรภรณ์ เศรษฐ์จินดา
Highlight
แน่นอนว่าผู้ประกอบการทุกคนเริ่มต้นธุรกิจด้วยเป้าหมายที่จะเติบโตและประสบความสำเร็จทางใดทางหนึ่ง แต่ในโลกของสตาร์ทอัพโดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่นำเทคโนโลยีขั้นสูง (Deep Tech) จากเพื่อนำไปต่อยอดทางธุรกิจ เราอาจพบว่าสำหรับสตาร์ทอัพระยะเริ่มต้นนั้น การเลิกกิจการเกิดขึ้นบ่อยครั้ง กว่าการนำบริษัทเข้าสู่กระบวนการ IPO หรือ Trade Sales เสียอีก
การทำความเข้าใจกระบวนการเลิกกิจการ จะช่วยให้ผู้ประกอบการมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจ เข้าใจลางบอกเหตุ วิธีการรับมือเมื่อธุรกิจไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง พิจารณามุมมองและเหตุผลของนักลงทุนหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มองว่าการเลิกธุรกิจเป็นเพียงแค่เหตุการณ์หนึ่งในวัฏจักรของการทำธุรกิจ เป็นทางเลือกหนึ่งในการลดความสูญเสีย และหากสามารถบริหารจัดการได้ทันท่วงที ก็สามารถนำทรัพยากรที่ยังคงมีอยู่ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในทางเลือกอื่นที่เหมาะสม
โดยเนื้อหาในบทความนี้เรียบเรียงใจความสำคัญจาก "What to Do if your Start-up Fails" จากหนังสือ Seed-Stage Venture Investing: An Insider’s Guide to Start-Ups for Scientists, Engineers, and Investors* ซึ่งผู้แต่งเป็นผู้ก่อตั้งและผู้บริหารกองทุน Convergent Ventures กองทุนสตาร์ทอัพระยะเริ่มต้นมุ่งเน้นการลงทุนในนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงที่มาจากการต่อยอดโครงการวิจัยทางวิชาการ (Spin-off) จึงได้ถอดบทเรียนจากการทำงานร่วมกับนักวิชาการที่ผันตัวมาเป็นผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิด รวมถึงความท้าทายรอบด้านที่ต้องเผชิญ ซึ่งในขณะที่เขียนหนังสือเล่มนี้ ผู้แต่งได้ผ่านกระบวนการเลิกกิจการธุรกิจที่ร่วมลงทุนไป 3 บริษัท จึงได้ฝากข้อคิดต่างๆ เช่น ข้อสังเกตสัญญาณอันตราย มุมมองและคำแนะนำเมื่อจำเป็นต้องเลิกกิจการที่นำมาสรุปไว้ใน 3 ประเด็นดังนี้
1. ชีพจรธุรกิจเต้นช้าลง สัญญาณเตือนภัย วันสุดท้ายอาจมาถึง
โดยมากการปิดตัวลงของธุรกิจมักไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อถึงคราวหลังชนฝา ประเภทเงินหมดหน้าตัก โดยส่วนใหญ่มักพบว่า ธุรกิจมักจะเผชิญสัญญาณชีพจรทางธุรกิจที่เต้นช้าลงระยะหนึ่ง ซึ่งในช่วงแรกผู้ประกอบการ จะเริ่มรู้สึกว่าสถานการณ์แวดล้อมต่างๆ เริ่มไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีล่าช้า ไม่มี Prototype หรือไม่สามารถบรรลุ Milestones ที่ตั้งไว้ หรือการเจรจาธุรกิจที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีกไม่มีทีท่าว่าจะมีข้อสรุปภายในระยะเวลาอันใกล้ รวมถึงการขอทุนสนับสนุนหรือการระดมทุนที่ไม่ประสบความสำเร็จ และที่ชัดเจนที่สุดก็คือ ปริมาณเงินสดคงเหลือในบริษัทสามารถต่อลมหายใจธุรกิจไปได้ไม่ถึง 8 เดือน เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ มักจะเป็นสัญญาณเตือนภัยสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่จะนำไปสู่การทบทวนแผนธุรกิจที่ผู้ประกอบการและทีมงานจะใช้คำถาม "ถ้าเกิดว่า...." เพื่อจำลองสถานการณ์ต่างๆ เตรียมขั้นตอนการปรับธุรกิจ ซึ่งการเลิกกิจการอาจจะเป็นทางเลือกหนึ่ง ณ เวลานั้น
2. พิจารณาด้วยเหตุผล และตัดสินใจร่วมกับ Key man ท่านอื่นๆ
3. ดำเนินการอย่างรอบคอบ เตรียมเงินสดให้พอ
เมื่อตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดดังนี้ ผู้ประกอบการและทีมงานจะสามารถประมาณการค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น กำหนดระยะเวลาที่เหมาะสม ให้ข้อมูลและประสานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย อย่างใกล้ชิด เพื่อจัดการภารกิจที่คั่งค้างให้เรียบร้อย ที่สำคัญคือการเตรียมสำรองเงินสดให้พอกับค่าใช้จ่ายทั้งหมด ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างและภายหลังจากวันเลิกกิจการ
เพื่อให้เข้าใจมุมมองของผู้แต่งมากขึ้น ผู้เขียนได้สรุปกรณีศึกษาตัวอย่างทั้ง 3 บริษัทโดยมีรายละเอียดดังนี้
กรณีตัวอย่าง | สาเหตุที่เลิกกิจการ |
Neurion Pharmaceuticals | โครงการวิจัยไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย ตามความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตยาที่ให้เงินทุนสนับสนุน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ และตัดสินใจที่จะไม่ดำเนินโครงการความร่วมมือต่อไป ในช่วงเวลาเดียวกัน บริษัทไม่ได้รับการอนุมัติเงินทุนสนับสนุนโครงการวิจัยระยะที่ 2 จึงเป็นเหตุให้บริษัทไม่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะพัฒนาความเชี่ยวชาญด้าน medicinal neurochemistry ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจต่อไป ถึงแม้ว่ากองทุนได้ตัดสินใจเลิกกิจการในขณะที่บริษัทมีเงินสดเพียงพอที่จะชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่ไม่พอสำหรับการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยให้ Seed Investor |
ORFID Corp. | ไม่สามารถพัฒนา Prototype จากเทคโนโลยี ที่จดสิทธิบัตรไว้ ภายในระยะเวลาที่กำหนด สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะ บริษัทใช้ศูนย์วิจัยที่มหาวิทยาลัยภายใต้เงินสนับสนุนของมหาวิทยาลัย ถึงแม้ว่าวิธีนี้ ช่วยลดค่าใช้จ่ายก็จริง แต่ศูนย์วิจัยและผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับงานวิจัยทางวิชาการมากกว่า งานพัฒนาเทคโนโลยีของ ORFID จึงล่าช้า ทำให้ไม่สามารถบรรลุการเจรจาความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรทางธุรกิจ หรือระดมทุนก้อนใหม่ได้ |
Proteio | บริษัทอยู่ในระยะเริ่มต้น และอยู่ระหว่างกระบวนการขอทุนสนับสนุนโครงการ ในกรณีนี้ นักวิจัยเทคโนโลยีนี้ ไม่ได้กระตือรือล้นในการต่อยอดทางธุรกิจ รวมถึงผลการประเมินจากหน่วยงานพิจารณาทุนสนับสนุนมองว่า การต่อยอดเทคโนโลยีทางธุรกิจมีโอกาสเป็นไปได้ต่ำ เมื่อเทียบกับสองบริษัทก่อนหน้านี้กองทุนใช้เวลาตัดสินใจเลิกธุรกิจไม่นาน และดำเนินการในขณะที่มีเงินสดเพียงพอในการชำระบัญชีเลิกกิจการ |
ทั้งหมดนี้ เป็นบทสรุปของแนวทางการวิเคราะห์และรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่มีผู้ประกอบการ หรือนักลงทุนท่านไหนต้องการให้เกิดขึ้น หากว่าการเลิกกิจการเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจ และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ก็ควรดำเนินการด้วยความรับผิดชอบ เมื่อวันเวลาผ่านไป ผู้ประกอบการอาจนึกขอบคุณบทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น และโอกาสที่ท่านได้รับเพื่อเริ่มก้าวต่อๆ ไป
*สำหรับท่านที่สนใจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมสามารถยืมหนังสือเล่มนี้ได้ที่ ห้องสมุดมารวย ในหมวด IE Entrepreneur Finance E00067 ENG HG4751. R63 2011
Robbins, W.L., & Lasch, J.G. (2011). Seed-Stage Venture Investing: An Insider’s Guide to Start-Ups for Scientists, Engineers, and Investors (2nd Edition). United States of America: Thomson Reuters/Aspatore