HIGHLIGHTS :
เวลาในการอ่าน 2 นาที
การเติบโตของธุรกิจสามารถใช้เงินทุนได้หลายรูปแบบ ตลาดทุนถือเป็นช่องทางหนึ่งที่มีความน่าสนใจ แต่ขณะเดียวกันก็มีกฎเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติให้ได้ดามที่กำหนด แล้วธุรกิจแบบไหนล่ะ ที่จะใช้ประโยชน์จากตลาดทุนได้ดี
กรอบที่ใช้ในการพิจารณาว่าธุรกิจนั้นเหมาะที่จะใช้ตลาดทุนในการเติบโตก็คือ
ก่อนที่จะใช้ตลาดทุนในการเติบโตนั้น ธุรกิจอาจจะอยู่ในรูปแบบเจ้าของคนเดียว หรือเป็นธุรกิจครอบครัว ซึ่งถ้าเงินทุนของตนเองที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการขยายกิจการแล้ว ก็จะใช้การพึ่งพาการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน หากมีภาระหนี้สินสูง จะส่งผลให้สัดส่วนของหนี้ต่อทุนอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะก่อให้เกิดภาระผูกพันตามมาคือ ดอกเบี้ย หากเมื่อใดที่เกิดวิกฤติการณ์ที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น จะส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของธุรกิจหรือบริษัท และอาจเกิดปัญหาสภาพคล่องตามมา ผลกระทบทางลบจะเกิดขึ้นเร็ว และจะฟื้นตัวได้ช้า ถึงแม้จะเป็นบริษัทที่ดี มีผลการดำเนินงานที่ดี ซึ่งการฟื้นตัวได้ช้านี้ อาจทำให้บริษัทสูญเสียโอกาสหรือสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจไป
การระดมทุนถือเป็นการใช้เครื่องมือทางการเงินคือ ตราสารทุน ในการปรับโครงสร้างทางการเงินให้มีความเหมาะสม คือปรับสัดส่วนหนี้สินต่อทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมนั่นเอง เมื่อเกิดภาวะวิกฤติ ธุรกิจหรือบริษัทเหล่านี้จะสามารถปรับตัวได้ดีกว่า เป็นภูมิคุ้มกันให้บริษัทสามารถดำรงธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
บริษัทที่ต้องการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น จะต้อง
ที่ปรึกษาทางการเงินเป็นผู้มีบทบาทในการให้คำแนะนำเกี่ยวกับ กฎเกณฑ์ กฎระเบียบ ที่บริษัทต้องเตรียมความพร้อมเพื่อให้มีคุณสมบัติเป็นไปตามที่กำหนด โดยมีประเด็นสำคัญ 4 ส่วนคือ
การเตรียมความพร้อมใน 4 ประเด็นนี้ ส่วนมากใช้ระยะ 2-3 ปี การใช้เวลามากหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของแต่ละบริษัท
Credit : คลิปความรู้ IPO Roadmap EP2: The Process of Going Public โดย คุณสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด
สรุปและเรียบเรียงโดย : ปิยารมย์ ปิยะไทยเสรี
ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ประกอบการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย